จัดฟันให้เรียงสวย ต้องทำอย่างไร ? เชื่อว่าทุกท่านน่าจะรู้จักกับการรักษาทางทันตกรรมที่เรียกว่า “การจัดฟัน” กันไม่มากก็น้อย ซึ่งการจัดฟันนี้จะช่วยทำให้ฟันที่เรียงตัวผิดปกติกลับมาเรียงตัวสวยงามได้ โดยการใช้กระบวนการติดตั้งเครื่องมือจัดฟันซึ่งมีหน้าที่ทำให้เกิดแรงกดลงไปที่ฟัน เพื่อทำให้ฟันเคลื่อนย้ายไปตามที่ทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมองแล้วว่าดีและสวยงาม โดยฟันของท่านจะค่อยๆขยับอย่างเป็นระเบียบจนกระทั่งเรียงตัวกันอย่างสวยงาม ซึ่งอาจจะต้องใช้ระยะเวลาตามแต่ละบุคคล
ซึ่งในวันนี้ทางด้าน Clinic จะขอพาท่านผู้อ่านมาทำความรู้จักกับข้อปฏิบัติต่างๆที่ควรคำนึงถึงในขณะที่ท่านจัดฟัน เพื่อให้ฟันเรียงตัวสวยงามตามที่ท่านได้ตั้งใจไว้ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
สิ่งที่ต้องคำนึงถึงในการจัดฟัน เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด ?
1. ช่วงวัยที่เหมาะสมในการจัดฟัน
ต้องขอบอกก่อนเลยไม่ว่าท่านจะมีอายุเท่าไหร่ก็ตามสามารถทำการรักษาโดยวิธีการจัดฟันได้ แต่ถึงอย่างไรก็ตามยิ่งอายุมากขึ้นก็จะยิ่งมีข้อจำกัดในความสำเร็จและประสิทธิภาพของผลลัพธ์ที่ได้ต่างกันอย่างชัดเจน
โดยส่วนใหญ่เมื่อในยุคสมัยก่อนนั้นทันตแพทย์มักจะแนะนำว่าการจัดฟันที่ดีที่สุดควรมีอายุประมาณ 7 ปี ซึ่งอยู่ในช่วงที่กระดูกขากรรไกรกำลังเจริญเติบโต ทำให้การจัดฟันจะได้ประสิทธิภาพสูงที่สุด เนื่องจากในช่วงวัยนี้ กระดูกขากรรไกรและฟัน จะสามารถเคลื่อนตัวได้ง่ายกว่าในช่วงวัยที่หยุดการเจริญเติบโตแล้ว
แต่ถ้าหากว่าเลยช่วงวัยนี้ไปแล้ว อีกช่วงอายุที่ทันตแพทย์จะแนะนำในการจัดฟันก็คือ อายุประมาณ 12 – 13 ปี เนื่องจากว่าเป็นช่วงอายุที่มีฟันแท้ครบสมบูรณ์ และสามารถให้จัดฟันบนฟันแท้ทั้งหมดได้แล้ว แต่ถ้าหากว่าเลยช่วงอายุที่กล่าวไว้ไปแล้ว ก็สามารถทำการจัดฟันได้ไม่มีข้อห้าม แต่ประสิทธิภาพของผลลัพธ์ก็อาจจะลดน้อยลงไปด้วยนั่นเอง
2. ควรจัดฟันตามกำหนดเวลา
การจัดฟันนั้นไม่ใช่ว่าเพียงแค่ใส่อุปกรณ์จัดฟันแล้วจะเสร็จสิ้นกระบวนการ แต่จริงๆแล้วเป็นแค่การเริ่มต้นเท่านั้น ซึ่งโดยปกติแล้วในช่วงที่ใส่อุปกรณ์จัดฟันในช่วงแรกๆ ทันตแพทย์จะทำการนัดหมายผู้ที่ทำการจัดฟันให้มาพบทุกๆเดือน เนื่องจากว่าทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจำเป็นที่จะต้องค่อยๆปรับหรือดึงอุปกรณ์จัดฟันให้รัดมากขึ้นเพื่อเป็นการปรับการเรียงตัวในทุกครั้งที่นัดหมาย
ต้องขอบอกเลยว่านัดหมายของทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในแต่ละครั้งนั้นจำเป็นและสำคัญมากๆกับผลลัพธ์ที่จะออกมาหลังจากการจัดฟัน ซึ่งการไปพบทันตแพทย์ในแต่ละครั้ง ทันตแพทย์จะทำการกำหนดทิศทางการเรียงตัวของฟันได้อย่างเหมาะสมนั่นเอง
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ระยะเวลาจัดฟันของแต่ละคนไม่มีทางเท่ากัน โดยขึ้นอยู่กับปัญหาสุขภาพฟันและช่องปากของแต่ละคน รวมถึงระเบียบวินัยของผู้เข้ารับการจัดฟันที่ควรปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด ก็จะสามารถทำให้การจัดฟันเห็นผลลัพธ์ที่ดีเป็นอย่างมาก
3. ใส่รีเทนเนอร์ให้ถูกต้อง ?
หลังจากที่ทำการจัดฟันเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทันตแพทย์จะทำการถอดอุปกรณ์ที่ทำการจัดฟันออกทั้งหมด แต่ฟันที่พึ่งเข้ารูปจะยังไม่มีความแข็งแรง และเมื่อทำการถอดอุปกรณ์การยึดบีบออกด้วยแล้ว มีโอกาสสูงมากที่จะทำให้ฟันที่มีความอ่อนแอและไม่มีที่ยึดติดสามารถล้มและกลับสู่สภาพก่อนที่จะทำการจัดฟันได้ ผู้ที่ถอดอุปกรณ์จัดฟันใหม่ๆจึงจำเป็นอย่างมากที่จะต้องใส่รีเทนเนอร์ หรือ อุปกรณ์คงรูปตำแหน่งฟันให้เป็นระเบียบ โดยรีเทนเนอร์นั้นจะมี 2 รูปแบบด้วยกัน คือ รีเทนเนอร์แบบถอดได้ และ รีเทนเนอร์แบบยึดติดกับฟัน
ซึ่งระยะเวลาในการใส่รีเทนเนอร์ของแต่ละคนก็จะไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยวิเคราะห์ของทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นที่ถือได้ว่าเป็นเรื่องใหญ่คือ ฟันกลับไปเรียงตัวไม่เป็นระเบียบแบบเดิม ซึ่งถือได้ว่าเป็นความล้มเหลวในการจัดฟัน มักเกิดขึ้นในกรณีที่ผู้จัดฟันไม่ทำตามคำแนะนำของทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ส่วนใหญ่จะเกิดในขณะที่นำอุปกรณ์จัดฟันออกไปแล้ว และใส่รีเทนเนอร์ไม่สม่ำเสมอ ผลสุดท้ายต้องแก้ไขโดยการเริ่มจัดฟันใหม่ทั้งหมดนั่นเอง