ผู้เขียน หัวข้อ: เที่ยววัดสวย เมืองรอง ไหว้พระ วัดศักดิ์สิทธิ์ ทำบุญให้ใจฟู เที่ยวฉบับสายบุญ  (อ่าน 106 ครั้ง)

siritidaphon

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 287
  • รับจ้างโพส ผ่านเวปประกาศ-เวปบอร์ด รับจ้างโพสเว็บ เลื่อนประกาศ ราคาไม่แพง
    • ดูรายละเอียด
เที่ยววัดสวย เมืองรอง ไหว้พระ วัดศักดิ์สิทธิ์ ทำบุญให้ใจฟู เที่ยวฉบับสายบุญ

ตามเราไป เที่ยวไทย ใน เมืองรอง กันบ้าง กับ ที่เที่ยวฉบับสายบุญ สายมู 9 วัดสวย เมืองรอง ไปไหว้พระ วัดศักดิ์สิทธิ์ ทำบุญให้ใจฟู กันได้เลยค่ะ นอกจากอิ่มใจ อิ่มบุญ ยังได้เที่ยวสบายๆ ในแบบฉบับของ ที่เที่ยวเมืองรอง ที่คนไม่เยอะ ไม่แออัด ไปเที่ยวได้ชิลๆ และได้ถ่ายรูปมุมสวยๆ กลับมาแบบนี้ ต้องไม่พลาดแล้วค่ะ!

ไหว้พระ วัดศักดิ์สิทธิ์ ให้ใจฟู

1. วัดพระธาตุสุโทนมงคลคีรี แพร่

       แพร่ เป็นหนึ่งในเมืองรอง ที่น่าไปเที่ยวไม่แพ้จังหวัดอื่นๆ เลยค่ะ และถ้าใครได้ไปเที่ยวเมืองแพร่ เห็นทีจะต้องแวะมา วัดพระธาตุสุโทนมงคลคีรี หรือ วัดพระธาตุสุโทน กันสักครั้ง เพราะที่นี่เป็นแหล่งรวมศิลปกรรมล้านนาประยุกต์ที่สวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทยเลยทีเดียว ทั้ง ภาพจิตรกรรมบนฝาผนังระเบียงคต ซึ่งเป็นเรื่องราวของชาดกพื้นบ้าน และภาพพุทธประวัติ ที่งดงามมากๆ ซึ่งได้จำลองรูปแบบมาจากวัดสำคัญๆของภาคเหนือ และประเทศอื่น เช่น พม่า จีน และลาว

      เข้าไปภายในวัด จะมีสถานที่น่าสนใจคือ พระธาตุบารมี 30 ทัศ ศิลปะเชียงแสน องค์เจดีย์ถึง 32 องค์ โดยฐานแปดเหลี่ยมซ้อนกันสองชั้น ความสวยงามที่ไม่เหมือนที่ไหนในล้านนาค่ะ

    ที่อยู่ : ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 101 (เด่นชัย-ลำปาง) ตำบลเด่นชัย อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่
    เปิดให้เข้าชม : 08.30-17.00 น.


2. วัดท่าซุง อุทัยธานี

     วัดท่าซุง หรือ วัดจันทาราม ที่นี่เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวอุทัยธานี เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาค่ะ และทั้งด้วยทั้งความงดงามของวัด รวมถึงความศักดิ์สิทธิ์ของ หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ พระเถระที่มีชื่อเสียงที่ชาวบ้านเคารพบูชา ทำให้วัดแห่งนี้มีชื่อเสียงมากๆ นั่นเอง

      สถานที่สำคัญภายในวัดก็คือ วิหารแก้ว 100 เมตร โดยรอบของวิหารประดับประดาด้วยโมเสกสีขาว และกระจก ที่สะท้อนกันไปมา ดูวิบวับทั่วไปทั้งวิหาร ภายในประดิษฐาน พระพุทธชินราชจำลอง เป็นที่สักการะ

     นอกจากนี้ ยังมี ปราสาททองคำ หรือ ปราสาททองกาญจนาภิเษก ตกแต่งด้วยทองคำตระการตา มีความประณีตงดงามมากๆ อีกด้วย เรียกได้ว่า ไปไหว้พระทำบุญกันได้ครบๆ เลยค่ะทั้งสายบุญ สายมู

    ที่อยู่ : หมู่ 2 ตำบลน้ำซึม อำเภอเมืองอุทัยธานี จังหวัดอุทัยธานี
    เปิดให้เข้าชม : 08.00-16.00 น.


3. วัดผาน้ำทิพย์เทพประสิทธิ์วนาราม ร้อยเอ็ด

       มาที่ เมืองรอง ภาคอีสาน กันบ้างค่ะ ปักหมุด ร้อยเอ็ด ที่ วัดสวย วัดผาน้ำทิพย์เทพประสิทธิ์วนาราม แห่งนี้ ภายในวัดประดิษฐาน พระมหาเจดีย์ชัยมงคล พระมหาเจดีย์ใหญ่ที่มีความงดงามตระการตามากที่สุดองค์หนึ่งของไทยเลยค่ะ

     องค์พระมหาเจดีย์ ออกแบบโดยกรมศิลปากร ผสมผสานความเป็นศิลปกรรมร่วมสมัยระหว่างภาคกลางและภาคอีสานเข้าด้วยกัน ตกแต่งด้วยลวดลายสีทองอร่ามเป็นประกาย มีความกว้าง ความยาว และความสูง 101 เมตรเท่ากันทุกด้าน! สวยงามมากจริงๆ ค่ะ และมียอดทองคำที่มีน้ำหนักกว่า 60 กิโลกรัม โดยมีทั้งหมด 6 ชั้นด้วยกัน เป็นวัดสวยในภาคอีสานที่อลังการมากๆ แห่งหนึ่งเลยทีเดียว

    ที่อยู่ : ตำบลผาน้ำย้อย อำเภอหนองพอก จังหวัดร้อยเอ็ด
    เปิดให้เข้าชม : 08.00-17.00 น.


4. วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว อุบลราชธานี

     วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว หรือที่เรียกกันว่า วัดเรืองแสง อุบลราชธานี นั้น เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนเนินเขาสูงโดยจำลองสภาพแวดล้อมของวัดป่าหิมพานต์ หรือเขาไกรลาศ มาไว้ที่นี่ค่ะ ซึ่งบริเวณบนยอดเขาจะมองเห็นพระอุโบสถสีปัดทองสวยงาม

     ความโดดเด่นของวัดแห่งนี้ก็คือ การได้มาชมภาพเรืองแสงเป็นสีเขียวของของต้นกัลปพฤกษ์ และดวงดาว ที่เป็นจิตรกรรมที่อยู่บนผนังด้านหลังของอุโบสถในยามค่ำคืนนั่นเอง ซึ่งเป็นฝีมือการออกแบบของ ช่างคุณากร ปริญญาปุณโณ ผู้ลงมือติดโมเสกแต่ละชิ้นด้วยตัวเอง โดยมีแรงบันดาลใจมาจากต้นไม้แห่งชีวิตในภาพยนตร์เรื่องอวตารค่ะ

    ที่อยู่ : อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี
    เปิดให้เข้าชม : 06.00-20.00 น.


5. วัดม่วง อ่างทอง

     ปักหมุด เมืองรองภาคกลาง กันบ้างที่ วัดม่วง อ่างทอง ค่ะ ทุกครั้งที่ขับรถผ่านไปทางภาคเหนือ เราจะได้เห็น องค์พระพุทธรูปสีทองอร่าม แต่ไกลๆ ตัดกับผืนนาสีเขียวชอุ่มสวยงาม เพราะฉะนั้นคราวนี้ก็อย่าได้ขัยรถเลยผ่านไป แวะมาเที่ยว ไหว้พระกันที่นี่สักครั้งค่ะ

      วัดม่วง อ่างทอง แต่เดิมนั้นเป็นวัดร้างที่สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลายค่ะ เมื่อครั้งเสียกรุง วัดม่วงเลยเหลือเพียงแค่ซากปรักหักพัง จนเมื่อ พระครูวิบูลอาจารคุณ (หลวงพ่อเกษม อาจารสุโภ) ได้ธุดงค์มา และเห็นว่าที่นี่เป็นสถานที่ที่น่าปฏิบัติธรรม จึงได้บูรณะวัดขึ้นใหม่

       ความโดดเด่นของวัดม่วงก็คือ ประดิษฐานพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สุดในโลก พระพุทธมหานมินทร์ศากยมุนีศรีวิเศษชัยชาญ เป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่นี้มีลักษณะงดงาม เป็นสีทองอร่าม นั่นเอง

    ที่อยู่ : หมู่ 6 ตำบลหัวตะพาน อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง
    เปิดให้เข้าชม : 08.00-18.00 น.


6. วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร สุพรรณบุรี

     วัดป่าเลไลยก์ วัดเก่าแก่ที่จังหวัดสุพรรณบุรี ค่ะ ซึ่งสันนิษฐานว่ามีอายุประมาณ1,200 ปีมาแล้ว ทำให้วัดป่าเลไลยก์จึงเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดสุพรรณบุรีที่ต้องแวะมาไหว้พระหากมาเที่ยวสุพรรณบุรีนั่นเอง

     ภายในวิหารประดิษฐาน หลวงพ่อโต พระพุทธรูปปางป่าเลไลยก์ ศิลปะสมัยอู่ทอง ซึ่งเป็นที่สักการะบูชาของชาวบ้าน และภายในองค์พระพุทธรูปหลวงพ่อโตนั้นได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ นอกจากนี้ วัดป่าเลไลยก์ ยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่เล่าเรื่องราวของ ขุนช้าง ขุนแผน ไว้อย่างครบถ้วนสวยงาม และยังมีชื่อปรากฏอยู่ในวรรณคดีไทยเรื่องนี้อีกด้วยค่ะ

    ที่อยู่ : 249 ถนนมาลัยแมน ตำบลรั้วใหญ่ อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี
    เปิดให้เข้าชม : 08.00-18.00 น.


7. วัดปากน้ำแขมหนู จันทบุรี

       ไป Unseen ที่ จันทบุรี เมืองรอง กับ โบสถ์สีน้ำเงิน วัดปากน้ำแขมหนู กันค่ะ ที่มาของโบสถ์สวยแห่งนี้เนื่องจากว่า โบสถ์หลังเก่าที่ได้สร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2489 เริ่มชำรุดทรุดโทรมมากขึ้น เพราะวัดตั้งอยู่ติดกับทะเล จึงมีการผุกร่อนมาก จึงมีการสร้างโบสถ์ใหม่ขึ้นในปี พ.ศ. 2534 เป็น โบสถ์เซรามิกสีน้ำเงิน สวยงามค่ะ

     มุมด้านหน้าของโบสถ์ที่มี บันไดพญานาค 5 เศียร มีลำตัวทอดยาวไปจนสุดทางบันได ถ่ายรูปสวยมากๆ ทีเดียวค่ะ ภายในโบสถ์ประดิษฐาน พระพุทธชินราชองค์จำลอง เป็นที่สักการะบูชาของชาวบ้าน และนักท่องเที่ยว ถ้าใครมาจันทบุรี ต้องไม่พลาดแวะมาที่นี่กันนะคะ

    ที่อยู่ : ตำบลตะกาดเง้า อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี
    เปิดให้เข้าชม : 08.00-16.00 น.


8. วัดแจ้ง ปราจีนบุรี

      วัดสวยเก่าแก่ของจังหวัดปราจีนบุรี ที่เราจะแนะนำให้มาเที่ยวไหว้พระกันก็คือ วัดแจ้ง แห่งนี้ค่ะ โดยวัดได้สร้างเมื่อปี พ.ศ.2391 ซึ่งชื่อวัดนั้นมาจากการที่ เจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) นำทัพเดินทางกลับจาราชการสงครามที่ประเทศกัมพูชา พอมาถึงบริเวณที่วัดแจ้ง ก็รู้สึกว่ามีความสว่างดี จึงให้ทหารพักผ่อนที่บริเวณนี้ ต่อมาก็ได้สร้างวัดขึ้น และได้อัญเชิญพระพุทธรูป หลวงพ่อเพชร มาประดิษฐานในอุโบสถ

      หลวงพ่อเพชร เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ที่เชื่อกันว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ และเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของประชาชน ประดิษฐานอยู่ที่วิหารหลวงพ่อเพชร ที่มีสถาปัตยกรรมที่สวยงามแบบเชียงแสนที่สวยงามค่ะ

    ที่อยู่ : อำเภอประจันตคาม จังหวัดปราจีนบุรี
    เปิดให้เข้าชม : 08-00-18.00 น.


9. วัดวังคำ กาฬสินธุ์

     ปิดท้ายกันที่ วัดวังคำ วัดสวย กาฬสินธุ์ ซึ่งจำลองแบบจาก วัดเชียงทอง ที่ หลวงพระบาง มาเป็นต้นแบบค่ะ เรียกได้ว่าเป็นวัดที่สวยอันซีนมากๆ จนต้องไม่พลาดแวะไปเที่ยวกัน

      วัดวังคำ เป็นวัดเดียวในกาฬสินธุ์ที่มีสถาปัตยกรรมแบบล้านช้างค่ะ เพราะชาวชุมชนชาวภูไทที่อยู่ในพื้นที่ เป็นชาวเมืองที่อาศัยทั้งในประเทศไทยและลาว จึงได้นำศิลปะล้านช้างที่สวยงามอย่างมากในภาคอีสานมาเป็นสื่อกลางในการเชื่อมวิถีชาวภูไท และชุมชนเข้าด้วยกันนั่นเอง

    ที่อยู่ : 38 บ้านนาทวี หมู่ 7 ตำบลสงเปลือย อำเภอเขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์
    เปิดให้เข้าชม : 09.00-17.00 น.