ผู้เขียน หัวข้อ: Doctor At Home: ฝีในสมอง (Brain Abscess)  (อ่าน 7 ครั้ง)

siritidaphon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 651
  • รับจ้างโพส ผ่านเวปประกาศ-เวปบอร์ด รับจ้างโพสเว็บ เลื่อนประกาศ ราคาไม่แพง
    • ดูรายละเอียด
Doctor At Home: ฝีในสมอง (Brain Abscess)
« เมื่อ: วันที่ 13 ตุลาคม 2025, 16:18:21 น. »
Doctor At Home: ฝีในสมอง (Brain Abscess)

ฝีในสมอง (Brain Abscess) คือ ภาวะติดเชื้อร้ายแรงที่เกิดขึ้นในเนื้อเยื่อสมอง ทำให้เกิดการสะสมของหนองและเซลล์อักเสบจนกลายเป็นก้อนหนองที่มีขอบเขตชัดเจน ถือเป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ (Medical Emergency) ที่ต้องได้รับการรักษาทันที เพราะขนาดของฝีที่โตขึ้นจะทำให้เกิดแรงกดดันต่อสมองและอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตหรือทำให้เกิดความพิการถาวรได้


1. สาเหตุของการเกิดฝีในสมอง

ฝีในสมองมักเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อราที่เดินทางเข้าสู่สมอง โดยแหล่งกำเนิดเชื้อที่พบบ่อย ได้แก่:

การแพร่กระจายจากอวัยวะข้างเคียง: เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด เช่น

หูชั้นกลางอักเสบ หรือโพรงกระดูกมาสตอยด์อักเสบ

ไซนัสอักเสบเรื้อรัง

ฟันผุ หรือรากฟันเป็นหนอง

การแพร่กระจายผ่านกระแสเลือด: เชื้อโรคจากแหล่งติดเชื้ออื่น ๆ ในร่างกายกระจายตัวไปตามกระแสเลือดจนเข้าสู่สมอง เช่น

การติดเชื้อในปอด (ปอดอักเสบ)

เยื่อบุหัวใจอักเสบ

การติดเชื้อที่ผิวหนังหรือในช่องท้อง

การติดเชื้อโดยตรง: เกิดจากบาดแผลที่ศีรษะ (ศีรษะแตก) หรือหลังการผ่าตัดสมอง

ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง: ในผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ (เช่น ผู้ป่วยเอดส์) อาจเกิดฝีในสมองจากเชื้อปรสิต (Toxoplasma gondii) หรือเชื้อราได้


2. อาการของฝีในสมอง

อาการมักจะเริ่มอย่างช้า ๆ แต่บางรายก็อาจเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน อาการจะขึ้นอยู่กับขนาดและตำแหน่งของฝีที่กดทับสมองส่วนต่าง ๆ

กลุ่มอาการ                                             ลักษณะอาการที่พบบ่อย
อาการทั่วไป/แรงดันในสมอง   ปวดศีรษะรุนแรง และต่อเนื่อง (มักเป็นอาการหลัก), คลื่นไส้ อาเจียน, คอแข็งเกร็ง, มีไข้ (แต่บางรายอาจไม่มีไข้)
อาการทางระบบประสาท           แขนขาอ่อนแรง หรือเป็นอัมพาตครึ่งซีก, มีปัญหาในการพูด (พูดไม่ชัด), สูญเสียการทรงตัว
อาการทางสติปัญญา           สับสน, การคิดช้าลง, ตอบสนองช้า, หงุดหงิดง่าย, ซึมลง หรือความรู้สึกตัวลดลง
อาการเฉพาะ   อาการชัก            (โดยเฉพาะหากไม่เคยมีประวัติชักมาก่อน), การมองเห็นเปลี่ยนไป (เช่น ตาพร่ามัว มองเห็นภาพซ้อน)

ส่งออกไปยังชีต
คำเตือน: หากมีอาการปวดศีรษะรุนแรงร่วมกับมีไข้ หรือมีอาการผิดปกติทางระบบประสาท ควรไปพบแพทย์ฉุกเฉินทันที


3. การวินิจฉัยและการรักษา

การรักษาฝีในสมองต้องทำในโรงพยาบาลและอาศัยการทำงานร่วมกันของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหลายสาขา

การวินิจฉัย
การตรวจภาพถ่ายรังสี: ใช้ CT Scan (เอกซเรย์คอมพิวเตอร์) หรือ MRI (คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า) เป็นหลัก เพื่อยืนยันตำแหน่ง ขนาด และจำนวนของฝี

การเจาะดูดหนอง: แพทย์อาจใช้ CT Scan นำทางในการเจาะดูดหนองเพื่อนำไปตรวจหาชนิดของเชื้อโรคที่ก่อให้เกิดฝี


การรักษา

การให้ยาปฏิชีวนะ/ยาฆ่าเชื้อรา (Medication):

จะเริ่มให้ยาทางหลอดเลือดดำทันที แม้จะยังไม่ทราบชนิดของเชื้อ

เมื่อทราบผลการเพาะเชื้อแล้ว แพทย์จะปรับยาให้เหมาะสมกับชนิดของเชื้อนั้น ๆ

การให้ยามักต้องใช้เวลานาน 4-8 สัปดาห์ หรือมากกว่า


การผ่าตัด (Surgery):

การเจาะดูดหนอง (Aspiration): ใช้เข็มเจาะผ่านกะโหลกศีรษะเพื่อดูดหนองออก ลดแรงดันในสมอง และเก็บตัวอย่างเชื้อ

การผ่าตัดเปิดกะโหลก (Craniotomy): ในกรณีที่ฝีมีขนาดใหญ่มาก หรืออยู่ในตำแหน่งที่ไม่สามารถเจาะดูดได้ แพทย์อาจพิจารณาผ่าตัดเพื่อนำฝีออกทั้งหมด

การรักษาควบคู่กัน: ในหลายกรณี แพทย์จะใช้การให้ยาปฏิชีวนะร่วมกับการผ่าตัดระบายหนอง เพื่อให้ได้ผลการรักษาที่ดีที่สุด