ช่วงหน้าฝน มักมีคนเกิดอันตรายจากไฟฟ้าเป็นจำนวนมาก เนื่องจากอุปกรณ์ไฟฟ้าอาจชำรุด และไม่ทันได้ตรวจสอบ ยิ่งถ้าเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้านอกบ้าน หากตัวเปียกจากฝน แล้วมาใช้งานหรือสัมผัสอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ชำรุด อาจทำให้เกิดไฟฟ้าดูดหรือไฟช็อตได้ เพื่อความปลอดภัย แนะนำว่าให้หมั่นตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าและสายไฟที่อยู่นอกบ้าน เนื่องจากอุปกรณ์เหล่านั้นอยู่ในที่โล่งแจ้ง ต้องเจอกับแดดและฝนอยู่เป็นประจำ อาจทำให้ชำรุดเสียหายได้ อุปกรณ์ไฟฟ้าเหล่านั้นจะมีอะไรบ้าง มาดูกัน
กริ่งประตู
เลือกใช้ชนิดที่มีหม้อแปลงแรงดันต่ำ 8 - 12 โวลต์ แบบชนิดกันน้ำที่มีฝาครอบปิด และยาแนวซิลิโคนรอบกริ่งอีกชั้นหนึ่ง เพื่อลดความเสี่ยงต่อการถูกไฟฟ้าดูด หากมือเปียกหรือยืนในที่ชื้นแฉะ ไม่ควรสัมผัสกริ่งโดยตรง ควรใช้หลังนิ้วกดหรือเคาะกริ่ง เพราะหากมีกระแสไฟฟ้ารั่วไหลจะได้ดึงมือกลับได้ทัน กรณีตรวจสอบพบสายไฟมีรอยฉีกขาด กริ่งประตูมีรอยร้าวให้จัดการเปลี่ยนใหม่ทันที
สายไฟฟ้าและปลั๊กไฟ
ให้เลือกใช้สายไฟที่มีขนาดและชนิดที่เหมาะสมกับสภาพการใช้งาน ไม่นำสายไฟที่ใช้ภายในบ้านไปใช้นอกบ้าน เพราะจะเกิดการชำรุดได้ง่าย ก่อให้เกิดอันตรายเพิ่มขึ้น สำหรับปลั๊กไฟควรใช้ชนิดกันน้ำหรือมีฝาครอบปิดกันน้ำ ทนต่อแสงแดด และมีระบบตัดกระแสไฟฟ้ารั่ว รวมถึงเดินสายไฟในท่อร้อยสายไฟ เพื่อป้องกันน้ำฝนไหลซึมและการขีดข่วนที่ทำให้เกิดกระแสไฟฟ้าลัดวงจร
โคมไฟสนาม
หมั่นดูแลสายไฟให้อยู่ในสภาพปลอดภัย และติดตั้งสายดินกับโคมไฟสนาม หากกระแสไฟฟ้ารั่วไหล ไฟจะได้ไหลลงดินโดยตรง จะช่วยป้องกันผู้ที่สัมผัสโคมไฟ มิให้ถูกกระแสไฟฟ้าดูด
ปั๊มน้ำ
ติดตั้งให้ห่างจากบริเวณที่เปียกชื้นและชื้นแฉะ ทำฐานรองให้สูงกว่าระดับน้ำท่วมถึง และทำหลังคาคลุมป้องกันน้ำฝนสาด เพื่อลดความเสี่ยงต่อการได้รับอันตรายกรณีกระแสไฟฟ้ารั่ว
ซ่อมบำรุงอาคาร: อย่าลืม...ดูแลอุปกรณ์ไฟฟ้านอกบ้านให้ปลอดภัยช่วงหน้าฝน อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://snss.co.th/dt_post/technical-services/