สำหรับใครหลายคนที่กำลังมีแผนจะซื้อบ้านเพื่อขยับขยายที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะเมื่อมีเงินเก็บสักก้อนหนึ่งแล้ว ก็อยากมองหาบ้านในราคาที่เหมาะกับความสามารถในการใช้จ่ายของตนเอง แต่นอกจากปัจจัยทางการเงินที่พร้อมแล้ว ยังมีปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ ที่ต้องวิเคราะห์ให้ละเอียดก่อนตัดสินใจซื้อบ้านหลังที่ต้องการ
บทความนี้จึงรวบรวมวิธีคิดก่อนลงมือซื้อบ้านว่าควรตรวจสอบจากปัจจัยใดบ้าง เพื่อให้คุณสามารถนำไปช่วยในการตัดสินใจและวิเคราะห์ข้อมูลก่อนที่จะตัดสินใจซื้อบ้าน เพื่อให้บ้านที่คุณได้เป็นเจ้าของนั้นไม่สร้างความลำบากใจให้กับคุณในภายหลัง
ตรวจสอบ 5 สิ่งนี้ให้ดีก่อนซื้อบ้าน
1. ความพร้อมทางการเงิน
บ้านเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่มีราคาค่อนข้างสูง การเงินจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดก่อนที่จะตัดสินใจซื้อบ้าน ซึ่งต้องตรวจสอบสภาวะทางการเงินของคุณให้ดีก่อนว่าราคาบ้านที่ต้องการคุณสามารถจ่ายไหวหรือไม่ หรือว่าคุณจะหาแหล่งเงินทุนด้วยการกู้กับธนาคาร ก็ต้องตรวจสอบว่ารายได้ของคุณนั้นสามารถยื่นกู้กับธนาคารได้ตามราคาบ้านที่ต้องการซื้อหรือไม่ เพราะถ้าขาดเรื่องสภาพคล่องทางการเงินไป ก็จะทำให้โอกาสที่คุณจะได้เป็นเจ้าของบ้านนั้นหลุดลอยไปได้
เมื่อคุณตรวจสอบแล้วว่ารายได้ของคุณสามารถยื่นกู้กับธนาคารเพื่อซื้อบ้านได้ ก่อนยื่นกู้ก็ยังมีเรื่องที่ต้องตรวจสอบอีกเล็กน้อย
ตรวจสอบเงินออมของคุณ
‘เงินออมสำคัญอย่างไรกับการซื้อบ้าน ทั้งที่ยื่นกู้ได้?’
ถ้ามองกันตามตรงแล้ว เงินออมจะเป็นเงินก้อนที่ใช้สำหรับเป็นเงินต้นของการซื้อบ้าน เนื่องจากการยื่นกู้ของคุณอาจจะไม่ได้วงเงินเต็มจำนวนของราคาบ้าน ดังนั้นสิ่งที่ควรมีคือเงินก้อนที่คิดเป็น 15 – 20% ของราคาบ้าน เพื่อให้คุณสามารถนำมาทบกับเงินที่กู้ได้เพื่อซื้อบ้านหลังที่ต้องการ เงินก้อนนี้ยังต้องใช้จ่ายค่าบริการโอนและค่าสัญญาต่างๆ ในขั้นตอนการซื้อบ้าน นอกจากนี้เงินออมยังเป็นเครดิตการเดินบัญชีของคุณซึ่งส่งผลต่อการยื่นกู้ให้ผ่านได้ง่ายขึ้นด้วย
ตรวจสอบเครดิตของคุณ
‘ทั้งที่ตรวจสอบการเงินแล้ว แต่ทำไมถึงยังกู้ไม่ผ่าน?’
ถึงจะตรวจสอบรายได้และ Statement อย่างสม่ำเสมอแล้วพบว่าคุณยื่นกู้ได้แน่นอน แต่กลับพบว่าธนาคารไม่ปล่อยกู้ให้กับคุณ เนื่องจากคุณมีหนี้สินที่ค้างชำระจากการกู้ยืมก่อนหน้า หรือค่าบัตรเครดิตที่ยังจ่ายยอดไม่ครบ โดยคุณสามารถตรวจสอบข้อมูลการค้างชำระเหล่านี้ได้จาก สำนักงานเครดิตแห่งชาติ (NCB) เพื่อดูยอดค้างชำระ และจัดการให้เรียบร้อยก่อน เพื่อสร้างเครดิตกับวินัยทางการเงินที่ดีต่อสถาบันทางการเงิน
อย่างไรก็ตาม การกู้เงินเพื่อซื้อบ้านนั้นสถาบันทางการเงินจะพิจารณาถึงการปล่อยสินเชื่อให้กับผู้กู้ ว่ากู้สินเชื่อไปใช้อย่างสมเหตุสมผลหรือไม่และตัวของผู้กู้เองจะสามารถชำระหนี้ได้หรือไม่ ซึ่งสามารถตรวจสอบยอดผ่อนชำระต่อเดือนเพื่อวางแผนได้ก่อน
2. ประเภทของบ้านที่ต้องการ
การเลือกประเภทและขนาดของบ้านจะเป็นสิ่งที่กำหนดในเรื่อง ‘ราคา’ ของบ้าน ให้คุณได้ใช้ในการวางแผนค่าใช้จ่าย ทั้งราคาบ้านและค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าต่อเติม ค่าตกแต่ง ค่าเฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น
ในปัจจุบัน คุณสามารถเลือกซื้อบ้านได้หลายประเภทตามความพอใจ เช่น บ้านเดี่ยว บ้านทาวน์โฮม ห้องชุด คอนโด ทาวน์เฮาส์ หรือเลือกซื้อบ้านมือสองซึ่งราคาถูกและมีตัวเลือกมากมายก็ยังได้ และนอกจากความพอใจแล้ว วิธีเลือกซื้อบ้านยังต้องคำนึงถึงสมาชิกที่อาศัยอยู่ด้วย เช่น จำนวน อายุ ความต้องการพิเศษ ฯลฯ เพื่อประเมินพื้นที่สอยใช้ และลักษณะของบ้านที่เหมาะสมกับทุกคน
ทั้งนี้ การเลือกที่อยู่อาศัย ก็ควรคำนึงถึงความเหมาะสมของราคาบ้าน ภาระผ่อนต่อเดือน เพื่อที่บ้านจะได้ไม่กลายเป็นภาระหนี้ที่หนักหนาจนเกินไป
3. ทำเลที่ตั้งของบ้าน
แม้ว่าจะเจอบ้านในพื้นที่ที่ตรงกับความต้องการ ที่สะดวกสบายในเรื่องการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ แล้ว แต่ก็ต้องดูตามผังเมืองด้วยว่าทำเลที่ตั้งของบ้านนั้นอยู่ในพื้นที่ชุมชนแออัดที่อาจจะก่อให้เกิดอันตรายต่อทรัพย์สินหรือไม่ หรือว่าตั้งอยู่ในเขตของผังเมืองประเภทพื้นที่อุตสาหกรรมที่มีการสัญจรของรถบรรทุกอยู่ตลอดเวลา รวมถึงบ้านที่ติดอยู่กับถนนใหญ่ ก็ทำให้เกิดมลภาวะต่างๆ ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัยได้
อีกทั้งเรื่องของการเข้าถึงของสาธารณูปโภคทั้ง น้ำประปา ไฟฟ้า การระบายน้ำ ถนน อินเทอร์เน็ต ที่เป็นสิ่งจำเป็นต่อการอยู่อาศัย ก็ต้องใช้ในการคำนึงในการเลือกทำเลด้วย เพราะในบางพื้นที่เอง ระบบสาธารณูปโภคก็อาจจะยังเข้าไปไม่ถึง หรือเข้าไปถึงแล้วแต่ระบบไม่มีสเถียรภาพ ทำให้ไฟดับบ่อย น้ำไม่ไหลบ่อย ก็ส่งผลต่อการใช้ชีวิตในระยะยาวได้
4. แนวเวนคืน
พื้นที่ก่อสร้างตัวบ้านก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะเรื่องของการตัดผ่านถนน ยิ่งถ้าเป็นบ้านในโครงการจัดสรรก็ต้องตรวจสอบกับผังเมืองให้ดีว่าถนนที่ตัดผ่านเป็นถนนส่วนบุคคลหรือถนนสาธารณะ เพราะสำหรับถนนสาธารณะจะมีเรื่อง “แนวเวนคืน” ที่ต้องตรวจสอบ
ไม่ว่าบ้านจะตั้งอยู่ติดถนน ทางหลวง ถนนตัดใหม่ โครงการทางด่วน รถไฟฟ้า ก็ถือว่ามีความเสี่ยงที่อาจถูกเวนคืนได้ โดยคุณสามารถขอข้อมูลเพื่อตรวจสอบบ้านหลังที่กำลังจะซื้อได้จากหลายหน่วยงาน เช่น กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท หรือกลุ่มองค์กรปกครองท้องถิ่น เช่น อบต. อบจ. เป็นต้น
5. การเดินทางและสิ่งอำนวยความสะดวกใกล้เคียง
เมื่อคุณได้บ้านในทำเลที่ตรงตามความต้องการแล้ว ก็มาตรวจสอบดูว่าการเดินทางเข้าออก และไปกลับจากที่ทำงานในแต่ละวันนั้นคุ้มค่าต่อค่าเดินทางหรือไม่ บางทำเลอาจจะมีขนส่งสาธารณะวิ่งผ่านก็ทำให้การเดินทางประหยัดลง แต่ในบางทำเลก็อยู่ไกลเมืองออกไป ทำให้ต้องใช้รถยนต์ส่วนตัวในการเดินทาง ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาเดินทางที่นานขึ้นเพื่อเข้าไปทำงานหรือทำธุระ
นอกจากนี้แล้ว ตรวจสอบว่าแหล่งอำนวยความสะดวกใกล้เคียง เช่น ตลาดสด ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร โรงพยาบาล อยู่ใกล้กับบ้านของคุณหรือไม่ โดยเฉพาะโรงพยาบาลที่เมื่อมีเหตุฉุกเฉินจะสามารถเดินทางไปรับการรักษาได้รวดเร็วแค่ไหน ก็เป็นอีกหนึ่งในการช่วยตัดสินใจก่อนซื้อบ้านเช่นเดียวกัน
ที่ปรึกษาโครงการ: สิ่งที่ควรตรวจสอบก่อนซื้อบ้าน อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://realestatebb.com/